วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2551

โรดิโก้โชว์ฟอร์มเตะตา



กองกลางแซมบ้ารายใหม่ของแมนยูอย่างโรดิโก้ พอสเซบอน โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในโอกาสลงสนามครั้งแรกในเกมสำรองเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา

แม้ผลการแข่งขันแมนยูจะเป็นฝ่ายแพ้ต่อแบล๊กเบิร์นไป 2-1 แต่ดาวรุ่งวัย 19 ก็ยังโชว์ฟอร์มเข้าตาอดีตผู้เล่นแมนยูอย่าง แพดดี้ ครีแลนด์

"ผมจะคอยดูเค้าเล่นอีก" แพดดี้บอก MUTV "เค้าเล่นได้เยี่ยมไปเลยเมื่อคืน"

"เค้าเล่นได้ทั้งสองเท้า ใจเย็นมากตอนครองบอล และลูกส่งของเค้าเยี่ยม, เยี่ยมมากๆ แถมยังตัวใหญ่อีกต่างหาก"

ในขณะที่เทคนิคอันยอดเยี่ยมตามแบบฉบับบราซิลเลี่ยนที่มีเต็มตัวแล้ว สิ่งที่ครีแลนด์เห็นก็คือการมีส่วนร่วมกับผู้เล่นคนอื่นๆ

"นักเตะอย่างพอล สโคลส์นั้นจะมองไปรอบๆเสมอ และรู้ว่าจะส่งบอลไปที่ไหนก่อนบอลจะมาถึงตัวเค้าด้วยซ้ำ" ครีแลนด์บอก "และเด็กคนนี้ก็เป็นผู้เล่นแบบนั้นเลย"

ปิเก้ยังคงรอไหว


เคราร์ด ปิเก้ ได้ออกมาพูดเป็นครั้งแรกว่าเค้าต้องการจะได้ลงสนามมากกว่านี้ แต่เค้าก็ยังคงมั่นใจว่าโอกาสนั้นจะมาถึงเค้าในไม่ช้า

ปราการหลังดาวรุ่งวัย 21 ปีโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ หลังจากมีโอกาสลงสนามไป 9 นัดในฤดูกาลนี้ และทำได้สองประตู

สำหรับอุปสรรคที่ขวางหน้าเค้าในการลงสนามนั้น น่าเสียดายที่เป็น "สองปราการหลังที่ดีที่สุดในโลก" อย่างริโอ เฟอร์ดินานด์ และเนมานย่า วิดิช ซึ่งจับคู่กันได้อย่างแข็งแกร่ง

"พวกเค้าเสริมกันและได้อย่างลงตัว" ปิเก้บอกกับนิตยสาร Inside United ฉบับเดือนมีนา

"ทั้งคู่ถือเป็นกองหลังที่เก่งที่สุดในโลก เก่งทั้งลูกกลางอากาศและบนพื้น แถมยังเล่นได้สม่ำเสมออีกต่างหาก ไม่เฉพาะในเกมเท่านั้น ตอนซ้อมก็เหมือนกัน พวกเค้ายังต้องการจะพัฒนาอยู่ตลอดเวลา"

"ผมรู้ว่าผมต้องทำงานให้หนักมากกว่าพวกเค้าเพื่อที่ได้มีโอกาสลงสนาม และผมก็พยายามทำอยู่ครับ"

และปิเก้ก็ยังปฏิเสธข่าวที่ว่าเค้าหมดความอดทนในการแย่งชิงตำแหน่งแล้ว

"คุณคงมองได้ทั้งสองทางนะครับ ในทางนึงมันก็ค่อนข้างน่าหงุดหงิดเพราะผมอยากจะลงสนามทุกสัปดาห์ แต่ในอีกด้านนึงผมก็ได้โอกาสเรียนรู้จากสุดยอดของโลกถึงสองคน ผมเชื่อมั่นว่าโอกาสของผมจะมาถึงในวันนีง ดังนั้นผมเลยไม่มีปัญหาอะไรครับ"

Reserves: United 1 Rovers 2

A Premier Reserve League
Victoria Stadium, Thu 14 Feb

MANCHESTER UNITED 1
Welbeck (89)

BLACKBURN ROVERS 2
Judge (10), Clarke (71)





สถิติไร้พ่ายอันยาวนานของทีมสำรองได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาในเกมกับแบล๊กเบิร์นโรเวอร์ส ซึ่งก็เป็นทีมเดียวกันที่ยัดเยียดความปราชัยครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว


ทีมของผู้จัดการคู่ ไบรอัน แมคแคลร์ และจิม ไรอัน โดนยิงนำไปสองประตูจาก อลัน จัดจ์ในช่วงสิบนาทีแรก และเจมี่ คลาร์กในช่วงครึ่งหลัง ก่อนที่แดนนี่ เวลเบคจะยิงประตูปลอบใจที่สมควรจะได้ เพราะในเกมนี้แมนยูยิงไปชนคานถึงสี่ครั้ง


เวลเบคมีโอกาสงามที่จะช่วยทำประตูขึ้นนำในนาทีที่สี่ แต่ลูกยิงจากบอลชิ่งหนึ่งสองกับคริส อีเกิ้ลส์นั่นหลุดเสาออกไปนิดเดียว ก่อน จัดจ์ มิดฟิลด์ของทีมเยือนจะยิงประตูขึ้นนำในอีกหกนาทีถัดมา จากจังหวะปะทะ 50-50 กับแซม ฮิวสัน บอลก็ลอยผ่านมือของรอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์ กระแทกคานเข้าไป

แม้ทีมเยือนจะได้คานช่วยทำประตู แต่ฝ่ายเจ้าบ้านคานกลับไม่เป็นใจ เมื่ออีเกิ้ลส์ได้จังหวะยิงจากริมเขตโทษในนาทีที่ 20 บอลพุ่งไปยังมุมประตู แต่กลับชนด้านนอกออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

แบล๊กเบิร์นอีกโอกาสบวกเพิ่มในอีกสิบนาทีให้หลัง แต่ลูกยิงของคลาร์กก็เฉี่ยวเสาออกไปเท่านั้น


แดนนี่ ซิมป์สัน และ ตง ฟางโจว ถูกส่งลงมาพลิกเกมในครึ่งหลังแทนเคราร์ด ปิเก้ และอีเกิ้ลส์ และกองหน้าชาวมังกรก็ช่วยสร้างโอกาสให้ทีมได้ทันที

ห้านาทีหลังจากพักครึ่ง แมนยูก็มีโอกาสงามที่สุดที่จะตีเสมอได้สำเร็จ แต่ถูกทั้งเสาปฎิเสธทั้งสองครั้ง ครั้งแรก ริชาร์ด เคลเวอร์ลี่ย์ ยิงระยะ 20 หลาไปชนเสาด้านขวา เวลเบค โฉบเข้าซ้ำ แต่บอลก็ดันไปชนที่เดิมซะอีก


กองหน้าเยาวชนทีมชาติอังกฤษมีโอกาสส่งบอลเข้าตาข่ายอีกครั้ง หลังจากโรดิโก้ พอสเซบอนและเดวิด เกรย์ปั้นเกมไปให้เคลเวอร์ลี่ย์ ยิงไปติดบล็อก แต่เวลเบคที่เข้าซ้ำก็ยิงบอลระยะสองหลาชนคานอย่างเหลือเชื่อ


จากนั้นแมนยูก็ยังพยายามโหมบุกเพื่อจะส่งบอลผ่าน บุสแมน นายประตูของแบล๊กเบิร์น ซึ่งต้องออกแรงเซฟลูกวอลเล่ย์ของอาตงในนาทีที่ 70


แต่แบล๊กเบิร์นก็เป็นฝ่ายได้ประตูทิ้งห่างออกไป เมื่อคลาร์กเบียดแย่งบอลชนะเอคเคอร์สลี่ย์ ก่อนเค้าจะสไลด์บอลผ่านซีเลอร์เข้าไป สถาณการณ์ของแมนยูยิ่งแย่เข้าไปอีกเมื่ออาตงต้องถูกเปลี่ยนออกหลังจากโดนเตะอย่างแรกเข้าที่หัวเข่า


ในนาทีสุดท้ายแมนยูก็ได้ประตูปลอบใจในที่สุด ฮิวสันแตะบอลจากลูกเปิดของอีแวนส์ไปเข้าทางของเวลเบค ซึ่งวอลเล่ย์เต็มๆเข้าไปอย่างสวยงาม แม้จะสายเกินไป ที่จะรอดพ้นจากความพ่ายแพ้ แต่ทั้ง แมคแคลร์และจิม ไรอันนั้นยังคงพอใจกับฟอร์มการเล่นในสนาม ซึ่งยอดเยี่ยมมาก

รายชื่อผู้เล่น
นายประตู : รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์
กองหลัง : เดวิด เกรย์, เคราร์ด ปิเก้ (แดนนี่ ซิมป์สัน แทนน. 46), แครก แคธคาร์ท, ริชาร์ด เอคเคอร์สลี่ย์
กองกลาง : อดัม เคลย์เวอร์ลี่ย์, แซม ฮิวสัน, โรดิโก้ พอสเซบอน, ฌอน อีแวนส์
กองหน้า : แดนนี่ เวลเบค, คริส อีเกิ้ลส์ (ตง ฟางโจว แทนน. 46 (ไมเคิล บาร์นส์ แทนน. 76))

สำรอง : เบน อามอส, เจมส์ เชสเตอร์

Reserves: United 2 City 0



Manchester Senior Cup
Victoria Stadium, Thu 7 Feb


MANCHESTER UNITED 2
Eagles (9 & 13)

MANCHESTER CITY 0






คริส อีเกิ้ลส์ ซัดสองประตู จองตั๋วนัดชิงชนะเลิศรายการแมนเชสเตอร์ ซีเนียร์คัพปีนี้ให้กับทีมปีศาจแดง

เกมนี้ทีมเยือนไม่ได้สร้างปัญหาให้กับเจ้าบ้านมากนัก เลยเป็นการเก็บชัยสบายๆ ในขณะที่ดาวเตะชาวบราซิลคนใหม่อย่างโรดริโก้ พอสเซบอนก็ได้โอกาสประเดิมสนามในสีเสื้อปีศาจแดงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ย้ายมา โดยลงสนามในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย

ดาวรุ่งชาวบราซิลโชว์ฝีเท้าให้เห็นหลายจังหวะ แต่คนที่โดดเด่นที่สุดในเกมนี้ต้องเป็นคริส อีเกิ้ลส์แน่นอน หลังจากทำสองประตูให้เกมขาดตั้งแต่นาทีที่ 13

ปีกตัวกลั่นคนนี้ซัดบอลระยะ 25 โดยที่ริชาร์ด มาร์ติน นายประตูซิตี้ได้แต่ยืนมอง เป็นประตูนำให้กับแมนยูในนาทีที่ 9 ก่อนจะบวกสกอร์อีกหนึ่งลูกในอีกเพียงสี่นาทีถัดมา

เมื่อทีมได้จังหวะฟรีคิกริมกรอบเขตโทษด้านซ้าย อีเกิ้ลส์ตัดสินใจยิงแทนที่จะเปิดบอล และลูกก็พุ่งวาบเข้าเสียบมุมบนไปอย่างงดงาม

จากนั้นเกมก็ดำเนินไปอย่างเรื่อยๆ ซิตี้มีโอกาสไล่ขึ้นมาจากลูกจุดโทษ แต่เคลวิน อูตูฮูก็ยิงไปให้ทอม ฮีตันบินไปปัดซะงั้น

ในครึ่งหลัง ทอม เคลย์เวอร์ลี่ย์ และเจมส์ เชสเตอร์ มีโอกาสบวกลูกที่สาม แต่ก็ทำไม่ได้ ยังไงก็ตามสองประตูของอีเกิ้ลส์ก็ช่วยพาแมนยูเข้าชิงเป็นปีที่สองติดต่อกัน

Possebon in Reserves squad


ไบรอัน แมคแคลร์ และจิม ไรอัน จะส่งโรดริโก พอสเซบอน มิดฟิลด์บราซิลลงสนามในทีมสำรองที่จะลงเตะบอลถ้วยแมนเชสเตอร์ ซีเนียร์คัพนัดพบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ดาวรุ่งวัย 18 ได้รับโอกาสลงสนามนัดแรกหลังจากย้ายมาร่วมทีมเมื่อเดือนที่แล้ว ในเกมที่ปีศาจแดงตั้งเป้าคว้าชัยในบอลถ้วยสี่นัดรวด

พอสเซบอนมีรายชื่อเป็น 16 คนในทีม พร้อมด้วยมิดฟิลด์อย่าง คริส อีเกิ้ลส์, คอร์รี่ อีแวนส์, ไมเคิล บาร์นส, แซม ฮิวสัน และทอม เคลเวอร์ลี่ย์

ทีมสำรองอาจจะได้แก้แค้นให้ทีมเยาวชน หลังจากที่น้องๆโดนทีมเยาวชนของซิตี้ถล่มกระจาย 5-0 เมื่อนัดก่อน

อีกทั้งยังเป็นโอกาสแก้ตัว หลังจากที่ทีมแพ้ซิตี้ในนัดชิงรายการนี้เมื่อปีก่อน ซึ่งซิตี้เอาชนะเราไปได้ 3-1 ในการแข่งที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด




รายชื่อผู้เล่นทั้งหมด

ผู้รักษาประตู : ทอม ฮีตัน, รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์
กองหลัง : เดวิด เกรย์, ไมเคิล เลีย, ริชาร์ด เอคเคอร์สลี่ย์, เจมส์ เชสเตอร์, เดเนี่ยล กัลแบรธ
กองกลาง : แซม ฮิวสัน, ไมเคิล บาร์นส, ทอม เคลเวอร์ลี่ย์, คริส อีเกิ้ลส์, คอร์รี่ อีแวนส์, โรดริโก พอสเซบอน
กองหน้า : แดนนี่ เวลเบค, ฌอน อีแวนส์, แอนทอน ไบรอัน

Reserves: United 3 Bolton 2

Manchester Senior Cup
Victoria Stadium, 31 Jan 2008


MANCHESTER UNITED 3
S Evans (12), Eagles (33), Cathcart (37)

BOLTON WANDERERS 2
Vaz Te (7), Braaten (55)


500) {this.width=500}" onclick="if(this.width == 500) { window.open('http://img341.imageshack.us/img341/3796/img10208341723jpgobjiipoh0.th.jpg', '_blank'); return false; }" alt="" border="0">



ทีมปีศาจแดงเก็บชัยชนะสามนัดรวดในถ้วย แมนเชสเตอร์ ซีเนียร์ คัพในฤดูกาลนี้ หลังจากเบียดชนะโบลตันไปอย่างดุเดือดในเกมที่ยิงกันถึงห้าประตูที่สนามวิคตอร์เรีย สเตเดี้ยม

แม้ทีมจะตกเป็นฝ่ายตามหลังอย่างรวดเร็ว แต่เลือนักสู้ภายในทีมก็ช่วยให้เก็บชัยนัดนี้ไปได้ จากประตูของฌอน อีแวนส์, คริส อีเกิ้ลส์ และเครก แคธคาร์ท

แม้ว่าสภาพอากาศจะไม่ค่อยเอื้ออำนวยทั้งกับผู้เล่นและเหล่าแฟนๆ ที่เข้ามาให้กำลังใจนักเตะ แต่ทั้งสองทีมก็แสดงให้เห็นความสนุกตื่นเต้นของฟุตบอลถ้วยได้เป็นอย่างดี

เกมวันนี้ทีมของ ไบรอัน แมคแคลร์ และจิม ไรอันเริ่มต้นกันได้ไม่ดีเท่าไหร หลังจากกองหลังปล่อยให้ริคาร์โด้ วาส เท กองหน้าชาวโปรตุกีสหลุดเข้าไปยิงให้โบลตันขึ้นนำไปก่อนเพียงแค่นาทีที่เจ็ดเท่านั้น

แต่กองหลังโบลตันก็ช่วยสงเคราะห์คืนให้อีกห้านาทีหลังจากนั้น เมื่อพวกเค้าสกัดบอลหน้าประตูกันไม่ขาด ฌอน อีแวนส์เลยแค่สไลด์บอลง่ายๆเข้าประตูไปช่วยให้เจ้าบ้านตีเสมอได้สำเร็จ

คราวนี้กองหลังทั้งสองทีมต่างก็เล่นแน่นอนขึ้น และในเกมรุกของทั้งสองทีมก็ต้องตั้งใจเล่นกันมากขึ้นเพื่อจะเอาประตูเพิ่มให้ได้

และก็เป็นคริส อีเกิ้ลส์ที่ยิงประตูได้ในนาทีที่ 33 จากการต่อเกมกันอย่างสวยงาม จากนั้นอีกสี่นาทีถัดมาเค้าก็มีส่วนร่วมในประตูนำห่างสองลูกของทีม

คราวนี้อีเกิ้ลส์โชว์ลูกตั้งเตะของถนัดของเค้า ลูกเปิดจากฝั่งซ้ายลงมาเข้าหัวแคธคาร์ทโหม่งเข้าไปง่ายๆ เป็นประตูแรกในฤดูกาลของเซนเตอรดาวรุ่งคนนี้

แม้ว่าแมนยูก็ยังครองเกมบุกได้มากกว่าทั้งเกม แต่แฟนบอลเจ้าบ้านก็ต้องลุ้นกันตัวโก่งเมื่อเดเนี่ยล บราเท่นหลุดเข้าไปยิงไล่ขึ้นมาให้ทีมเยือนในนาทีที่ 55

หลังจากนั้นเกมก็โต้กลับกันไปมา และมีโอกาสทำประตูกันทั้งสองฝั่ง แต่สุดท้ายก็เป็นแมนยูที่จองที่ในนัดชิงชนะเลิศในเดือนพฤษภาคมนี้ได้สำเร็จ

เคลเวอร์รี่ขอสอง

500) {this.width=500}" onclick="if(this.width == 500) { window.open('http://img216.imageshack.us/img216/5006/img10223829422jpgobjiipwg1.jpg', '_blank'); return false; }" alt="" border="0">


ทอม เคลเวอร์ลี่ย์ บอกกว่าทีมของเค้ายังคงมุ่งมั่นล่าแชมป์ลีกสำรองตอนเหนืออยู่ หลังจากชัยชนะเหนือโบลตันเมื่อวันพุธที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา

ตอนนี้ทีมปีศาจแดงมีแต้มตามหลังจ่าฝูงอย่างซันเดอร์แลนด์เพียงแต้มเดียวเท่านั้น ต้องขอบคุณสองประตูในช่วงสุดท้ายของเคลเวอร์รี่ย์ และเค้าก็มั่นใจว่าตอนนี้ทีมมีโอกาสดีที่จะคว้าแชมป์ลีกครั้งที่สามในรอบสี่ปี

"เราไม่แพ้ใครมาเก้าเกมแล้วครับตอนนี้" เค้าบอก MUTV "ลิเวอร์พูลกับซันเดอร์แลนด์ยังนำเราอยู่ เรามีเกมสำคัญอยู่อีกสองสามเกมข้างหน้า แล้วถ้าเราเก็บชัยในเกมพวกนั้นได้ เราก็คว้าแชมป์ได้แน่นอนครับ"

เคลเวอร์รี่ย์เป็นคนตัดสินในเกมโบลตันจากสองประตูที่เค้าทำได้ ลูกแรกจากเท้าซ้าย อีกลูกเป็นลูกชิพสวยงามจากระยะ 30 หลา

"ผมยิงไม่ได้มาสักพักแล้วครับ แล้วพอยิงได้สองลูกในเกมแบบนี้เลย มันก็เยี่ยมมากครับ"

"ลูกแรก ริชาร์ด (เอคเคอร์สลี่ย์) โยนมาลูกไปตกเท้าที่ผมไม่ถนัด แต่ผมก็ยังยิงได้"

"อีกลูกนึงผมวิ่งไล่บอล แล้วก็ได้มา ผมเห็นผู้รักษาประตูออกมาจากเส้นมากไป ลูกนี้ต้องใช้เทคนิคเยอะหน่อยให้ยิงผ่านเค้า ถึงผมจะยิงได้ไม่ค่อยเยอะ แต่ลูกนี้ก็เป็นหนึ่งในลูกทียอดเยี่ยมที่สุดของผมแน่นอนครับ"

Reserves: Bolton 0 United 2

Barclays Premier Reserve League
County Ground, Leyland, 23 Jan 2008


BOLTON WANDERERS 0

MANCHESTER UNITED 2
Cleverley (89 & 90)



500) {this.width=500}" onclick="if(this.width == 500) { window.open('http://img216.imageshack.us/img216/6186/img1017898jpgobjiip10wibp3.jpg', '_blank'); return false; }" alt="" border="0">


ทอม เคลเวอร์ลี่ย์ ยิงสองประตูในช่วงเฮือกสุดท้ายของเกม ช่วยให้แมนยูเอาชนะแชมป์ลีกสำรองปีที่แล้วอย่างโบลตันได้ ในเกมเมื่อคืนวันพุธที่ 23 มกราคม

ชัยชนะนัดนี้ทำให้พวกเค้าตามจ่าฝูงอยู่เพียงแต้มเดียว และทำสถิติไม่แพ้ใครติดต่อกันเก้านัด นับตั้งแต่แพ้แบล๊กเบิร์นเมื่อเดือนตุลาคม

เกมในครึ่งแรกไม่มีอะไรตื่นเต้นมากนักสำหรับทั้งสองทีม แต่กลับได้รับการจดชื่อหลายคน ฌอน อีแวนส์ และคอร์รี่ อีแวนส์ เป็นสองคนที่ได้ใบเหลืองในครึ่งแรก ทางแซม ฮิวสัน กัปตันทีมก็มีโอกาสจะให้ทีมเยือนขึ้นนำเมื่อลูกยิงระยะ 25 หลาของเค้าไปชนคาน

ฮิวสันมีส่วนร่วมกับการทำประตูอีกครั้ง เมื่อเค้าใช้ตัวบล็อกลูกยิงจ่อๆของโรเบิร์ต ซิสสัน ที่ดูเหมือนน่าจะเป็นประตูไปแล้ว

ทั้งสองทีมได้จังหวะทำประตูกันอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไปครบชั่วโมง ครั้งแรกไมเคิล เบิร์นของโบลตันได้ยิงผ่านรอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์เฉี่ยวเสาออกไป ก่อนคริส แฟแกนของแมนยูจะยิงจากระยะ 10 หลาหน้าประตูพลาดไป จากการเปิดด้านข้างที่ยอดเยี่ยมของริชาร์ด เอคเคอร์สลี่ย์


ฝนก็ยังเทลงมาอย่างหนักในเกมที่ทั้งคู่ต่างก็พยายามค้นหาประตูแรกกัน ทางฝั่งแมนยูที่แม้พยายามกันอย่างหนักก็ดูเหมือนจะไร้ค่าจนถึงนาทีที่ 89 จนกระทั่งเคลเวอร์ลี่ย์ ยิงสองประตูในเวลาเพียง 65 วินาที ช่วยให้ทีมคว้าสามแต้มได้สำเร็จ

ประตูแรก เค้าได้จังหวะยิงหน้าประตู หลังจากสตีฟ บาแชม มิดฟิลด์ของโบลตันสกัดลูกเปิดของเอคเคอร์สลี่ย์ไม่พ้น

จากนั้นเพียงอีกหนึ่งนาทีถัดมา บอกดาน นายประตูโบลตันออกมานอกเขตเพื่อเคลียร์ลูก แต่ดันเคลียร์ไม่ดีลูกไปตกถึงเคลย์เวอร์ลี่อีกครั้ง คราวนี้เค้ายิงระยะ 30 หลาไปสู่ประตูโล่งๆ ย้ำชัยชนะเด็ดขาด

ผลนัดนี้ส่งแมนยูอยู่อันดับสี่ในตาราง ตามหลังจ่าฝูงอย่างซันเดอร์แลนด์เพียงแต้มเดียว และยังอยู่ในเส้นทางการคว้าแชมป์ครั้งที่สามในสี่ฤดูกาลต่อไป


รายชื่อผู้เล่น
นายประตู : รอน-โรเบิร์ต ซีเลอร์
กองหลัง : อดัม เอคเคอร์สลี่ย์ , ไมเคิล เลีย, แครก แคธคาร์ท, เจมส์ เชสเตอร์
กองกลาง : ทอม เคลเวอร์ลี่ยส์, แซม ฮิวสัน, คอร์รี่ อีแวนส์, แอนทอน ไบรอัน
กองหน้า : คริส แฟแกน (แดเนียล ดริงวอเตอร์ แทนน. 76), ฌอน อีแวนส์

สำรอง : เบน อามอส, คอร์นอร์ แมคคอร์แมค, แมท เจมส์, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด

Reserves: United 4 Oldham 0

17 January 2008
Lancashire Senior Cup





ทีมสำรองของแมนยูยังรักษาผลงานยอดเยี่ยมในการแข่งฟุตบอลถ้วย ด้วยการถลุงทีม "หมูชรา" โอลด์แฮมไปอีกสี่ลูก ในรายการแลงคาร์เชียร์ ซีเนียร์ คัพ เมื่อวันพฤหัส ( 17 มกรา) ที่ผ่านมา

ประตูจาก คอนอร์ แมคคอร์แมค, คริส แฟแกน, แซม ฮิวสัน และฌอน อีแวนส์ เป็นประตูที่ 15 ในบอลถ้วยแค่สามนัดเท่านั้นในฤดูกาลนี้ และช่วยให้ทีมมีสถิติไม่แพ้ใครรวม 8 นัดในทุกรายการติดต่อกันแล้ว

แมคคอร์แมคประเดิมสกอร์แรกในเวลาเพียงสองนาที ด้วยโชคช่วยนิดๆที่ลูกยิงของเค้าไปโดนตัวกองหลังเปลี่ยนทางจน เลส โพเกลียคอมี่ นายประตูโอล์ดแฮมทำอะไรไม่ได้

ทีมเยือนมีโอกาสตีเสมอจากไรอัน บรู้คถึงสองครั้ง แต่แฟแกนก็ยิงให้เจ้าบ้านนำห่างไปอีกในนาทีที่ 23

โอลด์แฮมมีโอกาสอีกสองครั้งจากลูกฟรีคิก แต่เสา และรอน โรเบิร์ต-ซีเลอร์ ก็ช่วยกันหยุดลูกยิงของไมเคิล เพียร์สันและ เลียม ดอว์สันไปได้

แม้ทีมเยือนจะเป็นฝ่ายมีโอกาสติดๆกัน แต่ก็เป็นเจ้าบ้านที่ได้ประตูนำห่างไปอีกครั้งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เมื่อแมคคอแมคโดนทำฟาวล์ในเขตโทษ แม้ว่าแซม ฮิวสันกัปตันทีมจะยิงไปถูกเซฟ แต่เค้าก็ยังไวพอที่จะตามซ้ำส่งลูกตุงตาข่ายเข้าไปได้

ฮิวสันเกือบบวกลูกที่สี่ในครึ่งหลังจากจังหวะชุลมุนหน้าประตู แต่ฌอม อีแวนส์ก็เป็นฝ่ายขโมยซีนด้วยการซ้ำจ่อๆเข้าไป ช่วยให้ทีมเอาชนะเกมนี้ไปสบายๆ

อีแวนส์ภูมิใจในผลเสมอ

500) {this.width=500}" onclick="if(this.width == 500) { window.open('http://img502.imageshack.us/img502/8877/img10222113412jpgobjiiprr0.jpg', '_blank'); return false; }" alt="" border="0">


ฌอน อีแวนส์ ปีกตัวกลั่นของทีมสำรองเป็นปลื้มอย่างมากหลังจากเป็นผู้ทำประตูตีเสมอเอฟเวอร์ตันในเกมเมื่อคืนวันพุธ ( 9 มกรา) ที่ผ่านมา เพราะมันช่วยแก้ไขลูกที่เค้าพลาดอย่างเหลือเชื่อในช่วงครึ่งแรกด้วย

มิดฟิลด์วัย 20 ปีซ้ำลูกยิงจุดโทษของริชชี่ โจนส์พลาดจากระยะเพียงหกหลาหน้าประตู ประตูตีเสมอ 2-2 ของเค้าช่วยให้ทีมไล่ตามจากการตามหลังสองประตูได้สำเร็จ

แม้ว่าจะดีใจกับประตูที่เค้าทำได้ แต่เค้าก็ผิดหวังในผลการแข่งขันนิดหน่อยที่พลาดโอกาสเก็บชัยหลังจากโดนนำสองลูก

"ผมชอบประตูนี้นะครับ ผมแก้ตัวที่พลาดในครึ่งแรกได้" เค้าบอกกับ MUTV "ช่วง 20 นาทีแรกมันน่าผิดหวังสำหรับเรานิดหน่อย เราปล่อยให้พวกเค้าเล่นมากไปนิด เราสมควรโดนตำหนิในจุดนั้น แต่ในครึ่งหลังเราก็กลับมาเล่นได้ดีกว่าเดิมมากเลยนะครับ และจริงๆแล้วเราก็น่าจะชนะเลยด้วยซ้ำ ตอนพวกเค้าเหลือแค่สิบคนเราก็ไม่ได้เล่นเกมรับมากกนัก แต่เราก็สร้างโอกาสไม่ได้มากนักด้วยเหมือนกัน"

Reserves: Everton 2 United 2

Barclays Premier Reserve League
9 January 2008, Halton Stadium



EVERTON 2
Anichebe 12, Vaughan 17

MANCHESTER UNITED 2
Neville 21, S Evans 63


500) {this.width=500}" onclick="if(this.width == 500) { window.open('http://img155.imageshack.us/img155/3012/img10222053192jpgobjiiphz9.jpg', '_blank'); return false; }" alt="" border="0">







แกรี่ เนวิลล์ กัปปิตันของเราก็ได้กลับมาลงสนามได้อีกครั้งหลังจากต้องเจ็บไปนาน โดยลงเคาะสนิมในเกมนี้ไป 45 นาทีโดยไม่มีปัญหาอะไร ในเกมที่เสมอกับเอฟเวอร์ตันไปอย่างสนุก

แกรี่ลงเล่นในตำแหน่งแบ๊คขวามตามถนัด และดูมุ่งมั่นในการมีส่วนร่วมในเกมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งก็ช่วยให้ทีมสู้กับทีมทอฟฟี่ได้อย่างสนุก ก่อนจะถูกเปลี่ยนตัวออกโดย ริชาร์ด เอคเคอร์สลี่ย์ ลงมาเล่นแทนในช่วงครึ่งหลัง

และเป็นเค้าที่ยิงประตูตีตื้นเป็น 2-1 ในนาทีที่ 21 ทำให้ทีมสามารถกลับมาตีเสมอได้หลังจากโดนนำไปถึง 2-0 ภายในเวลาเพียง 17 นาทีจากลูกยิงของวิคเตอร์ อนิเชบี้ และลูกซัดไกลของเจมส์ วอห์น (ว่ากันว่านี้คือรูนี่ย์คนต่อไป)


แกรี่ วิ่งทะลุขึ้นไปทางขวา จากจังหวะที่เดวิด เกรย์จ่ายทะลุช่องมาให้ ก่อนจะพาบอลตัดเข้ามาในกรอบเขตโทษ และยิงด้วยเท้าซ้ายผ่านตัวจอห์น รัดดี้เสียบตาข่ายเข้าไป

ในเกมที่ไม่ค่อยมีจังหวะทำประตูกันมากมายนักทั้งสองทีมนั้น แมนยูน่าจะได้ประตูตีเสมออย่างที่สุดก่อนหมดครึ่งแรก เมื่อฟาเบียน แบรนดี้ถูกรวบในเขตโทษ

จอห์น เออร์วิง กองหลังของเอฟเวอร์ตันถูกใบแดงจากจังหวะนี้ แต่แมนยูก็ทำโอกาสทองหลุดลอยไป ริชชี่ โจนส์ยิงไปให้นายประตูเซฟ ก่อนฌอน อีแวนส์จะปราดเข้าซ้ำ แต่บอลหลุดกรอบไปอย่างไม่น่าเชื่อ

แต่ปีกซ้ายคนนี้ก็กลับมาแก้ตัวได้สำเร็จเมื่อเกมผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เมื่อเค้ารับบอลจากคริส แฟแกน ตัวสำรอง ก่อนจะหาที่ว่างในเขตโทษได้และจัดการส่งลูกเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ

อีแวนส์มีโอกาสเป็นฮีโร่คว้าชัยให้ทีมก่อนหมดเวลาห้านาที แต่รัดดี้ก็โชว์ซุปเปอร์เซฟพุ่งปัดลูกยิงของเค้าเฉี่ยวเสาออกไป ช่วยเซฟแต้มให้เจ้าบ้านได้สำเร็จ

ผลเสมอนัดนี้หยุดสถิติชนะห้านัดรวดของแมนยู แต่ผลงานพลิกเกมกลับมาหลังจากตามสองลูก และได้เห็นกัปตันกลับมาลงสนามก็เป็นผลงานที่ไม่เลวเท่าไหรหรอกเนอะ

รายชื่อผู้เล่น

นายประตู : รอน โรเบิร์ต-ซีเลอร์
กองหลัง : แกรี่ เนวิลล์ (ริชาร์ด เอคเคอร์สลี่ย์ แทนน. 46) , เจมส์ เชสเตอร์, แครก แคธคาท (ทอม เคลเวอร์ลี่ย์ แทนน. 46) แดนนี่ ซิมป์สัน (แดเนียล ดริงวอเตอร์ แทนน. 46)
กองกลาง : เดวิด เกรย์, แซม ฮิวสัน , ริชชี่ โจนส์, ฌอน อีแวนส์
กองหน้า : ฟาเบียน แบรนดี้, ตง ฟาง โจว

สำรอง : ทอม ฮีตัน, ไมเคิล ลี